จากบทความตอนที่แล้ว...
ก่อนที่จะไปดูขาใหญ่ในตลาด COMEX เรามาเริ่มต้นทําความรู้จักกับ Volume และ Open Interest กันก่อนนะ
Volume คือ จํานวนสัญญาที่มีการจับคู่ซื้อขายกันในแต่ละวัน
Open Interest (OI) คือจํานวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคํานวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงป้จจุบัน
ดังนั้น ข้อแตกต่างที่สําคัญระหวาง Volume กับ OI ก็คือ Volume จะวัดว่าในวันนั้นๆ มีสัญญาที่ได้รับการจับคู่เท่าใด โดยไม่สนใจว่าการจับคู่นั้นจะเป็นการจับคู่เพื่อเปิดสัญญาหรือปิดสัญญา แต่ OI จะดูว่าตลาดในขณะนั้นๆ มีคนถือสัญญาคงเหลืออยู่เท่าใดในตลาด
แทบจะทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของราคา Gold Future ในตลาด COMEX ราคา Spot Gold จะวิ่งตามไปด้วย ทาง CFTC จะประกาศรายงาน Commitments of Traders ทุกๆคืนวันศุกร์ แต่ข้อมูลจะอัปเดตถึงแค่ข้อมูลของคืนวันอังคาร ดังนั้นข้อมูลอีก 3 วันก็ต้องเดากันเอง แต่ข้อมูลดังกล่าวก็จะถูกเผยแพร่ในวันศุกร์ถัดไป
ใครต้องการดูข้อมูลเข้าไปดูที่
http://www.cftc.gov/dea/futures/deacmxsf.htm
หรือที่ http://www.cftc.gov/dea/futures/deacmxlf.htm
หรือที่ http://graphics.thomsonreuters.com/11/02/cftc.html
หลักๆก็จะดูที่จำนวนสัญญา long และ short ของพวก Non-Commercial กับพวก Commercial ว่าเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไรในแต่ละสัปดาห์ และที่สำคัญก็จำนวน Open Interest ว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลง
Non-Commercial ซึ่งก็คือกองทุนเก็งกำไร หรือก็เรียกกันว่า Large Speculators ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจาก Hedge Funds ต่างๆ
Commercial ก็จะมาจากภาคอุตสาหกรรมเครื่องประดับ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำการ hedge หรือ de-hedge เพื่อลดความเสี่ยงในการผันผวนของราคาทอง แต่ก็อาจจะมีการเก็งกำไรเข้ามาบ้าง
Non-reportable ก็น่าจะมาจาก Small Speculators หรือนักลงทุนรายย่อยเหมือนพวกเราที่เล่นผ่านโบรกต่างๆ และอาจจะเป็น hedge fund เล็กๆ
เราสามารถใช้ข้อมูล Volume กับ OI เพื่อวิเคราะห์แนวการซื้อขายของผู้ลงทุนในตลาดได้ดังนี้
ราคาฟิวเจอร์สในตลาดเพิ่มขึ้น - Volume เพิ่มขึ้น - Open Interest เพิ่มขึ้น สถานการณนี้สะท้อนให้ เห็นว่าผู้ลงทุนมีการเปิดสัญญาใหม่มากขึ้นและต้องการมีสถานะ Long Position มากกว่าฝั่ง Short ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ตลาดนั้นยังคงจะเป็นช่วงขาขึ้น
ราคาฟิวเจอร์สในตลาดลดลง - Volume เพิ่มขึ้น - Open Interest เพิ่มขึ้น ก็จะสะท้อนว่าผู้ลงทุนต้องการเปิดสัญญาใหม่มากขึ้นแต่เป็นด้าน Short Position มากกว่าด้าน Long ซึ่งเป็นสัญญาณว่า
ตลาดนั้นยังคงจะเป็นขาลงต่อไป
ราคาฟิวเจอร์สในตลาดเพิ่มขึ้น - Volume ลดลง - Open Interest ลดลง อาจสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ลงทุนเริ่มทําการปิดสัญญาเพื่อทํากําไร และไม่มีการเปิดสัญญาใหม่หรือเปลี่ยนมือของสัญญา สถานการณ์เช่นนี้อาจหมายถึงราคากําลังจะถึงจุดสูงสุด และใกล้จะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลง
ราคาฟิวเจอร์สในตลาดลดลง - Volume ลดลง - Open Interest ลดลง นั่นอาจหมายถึง ราคากําลังจะถึงจุดต่ำสุด และใกล้จะเปลี่ยนทิศทางเป็นช่วงขาขึ้นก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม การดูแนวโน้มของตลาดจากข้อมูล Open Interest และ Volume นั้น คงจะไม่ได้บ่งบอกถึงแนวโน้มที่ชัดเจน 100% เพราะ Volume และ OI เป็นเพียงร่องรอยส่วนหนึ่งจากการเปลี่ยนแปลง
ของราคาใน Futures Market แต่ในความเป็นจริง ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดเปลี่ยนแปลง ดังนั้น เราควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีและนํามาพิจารณาประกอบกันก่อนที่จะตัดสินใจซื้อขาย

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น